รวมถามตอบสารพันภาษี 2

,
เสียภาษีปีละ 9000บาทไปซื้อประกันชีวิตอัตราเบี้ยประกัน....
อตรเบี้ยประกัน ปีละ 9000 บาท เท่ากับเงินที่เสียไปกับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จะได้ละั เว้นภาษีสำหรับประกันชีวิตเท่าไหร่ครับแล้วจะได้คืนยังไง ตอนไหนครับ
คำตอบดีที่สุด
ต้องทำความเข้าใจเป็นขั้นๆนะครับ ก่อนอื่น เอารายได้ทั้งปีตั้งหักด้วยค่าใช้จ่ายต่างๆ เหลือเท่าไหร่ก็เอามาตั้ง ต่อไปก็หักด้วยค่าลดหย่อน ต่างๆเช่น บุตรเรียน/ไม่เรียน ดูแลบิดามารดา ประกันชีวิต ประกันสังคม ดอกเบี้ยบ้าน เหลือเท่าไหร่ ก็เอาไปเข้าอัตราภาษีก้าวหน้า 10,20,30 และ 37% แต่ 150,000 แรกได้รับยกเว้น ครับ เช่น
    คุณตี๋ รับราชการภรรยาอยู่บ้านเลี้ยงลูก รายได้ปีนี้ 550,000 บาท  หักค่าใช้จ่ายส่วนตัว 60,000 เหลือ 490,000 หักค่าลดหย่อน ส่วนตัวและคู่สมรส 60,000 ลูกเรียน1คน 17,000 ดอกเบี้ยบ้าน  100,000 ดูแลพ่อแม่แก่เฒ่า 60,000 เบี้ยประกัน 9,000 ถวายหลวงพ่อ 4000 
เหลือ 240,000 (เอาไปคำนวณภาษ๊ครับ เรียกว่าคุณมีฐานภาษี 10% ครับ คือช่วง 0-500,000 บาท 150,000 แรกไม่เสีย ตามมติ ครม. )
เหลือไปคำนวณจริง 90,000 บาท เสีย 10% = 9,000 เป๊ะ 
ไม่ได้เงินอะไรคืนอีกนะครับ เพราะเบี้ยประกัน 9,000 มันเป็นค่าลดหย่อนเต็มอยู่ในนั้นแล้ว(ไม่เกิน1แสน) 
พิสูจน์....สมมุติ ลืมเอาเบี้ยประกันไปลด เงินคำนวณภาษีสุดท้ายจะเป็น 249,000 บาท เมื่อคำนวณภาษี หัก 150,000 แรกจะเหลือ 99,000  เสียภาษี 10%=9,900 
สรุป เบี้ยประกัน 9,000 บาท ฐานภาษี 10 % ส่วนลดเป็นตัวเงินจริงๆ = 900 บาท แต่ลดในนั้นแล้วไม่ได้เงินคืนอีก ฟันธงครับ  สนใจ ให้คำปรึกษาฟรี ครับผม  รัชพล 081-9549249



Re: ตัวแทนประกันชีวิต มีรายได้อย่างไร
ได้อะไรหลายๆอย่างครับ ยกตัวอย่างตัวแทนใหม่ อายุงาน 6 เดือน ตามรูป statement เดือน 30 พ.ย.52 นะครับ
ก็มีรายได้จากการขายประจำเดือน โบนัสประจำเดือน โบนัสรอบ3เดือน หักภาษีประจำเดือน เหลือเข้าบัญชี 
104,364.79 บาท หลังจากนั้นก็เอาสมุดธนาคารไปปรับว่าตรงหรือไม่ ครับ ครบสิ้นปี(พย 52) ก็จะมีโบนัสประจำปี ประมาณ 300,000 บาท รวมรายได้ต่อปีประมาณ 800,000 เศษ และไปเที่ยวฮ่องกง ฟรี และเก็บคะแนนไป ลาสเวกัส ปีหน้าด้วย  แต่....อย่าเหลิง เพราะภาษี คนโสด ไม่มีอะไรหักลดหย่อนเลย ภาษี 80,000 + ชัวร์

ขอทุกท่านช่วยเสนอแนะ และความคิดเห็น เกี่ยวกับการประกันชีวิตและการวางแผนการเงิน(ซึ่งหายากมาก) ช่วยกันหน่อยครับ
ผมเป็นคนขายประกันที่อยู่ในอาชีพนี้นานหลายปีแล้วเลยได้ทราบข้อมูลว่าคนไทยทำประกันเป็นมูลค่าระดับพันล้านบาทต่อปี แต่เปรียบเทียบเ็ป็นเปอร์เซ็นกลับมีค่าเพียงประมาณ 17% อยากทราบว่า ท่านทั้งหลายมีความคิดเห็นอย่างไร เกี่ยวกับเรื่องนี้ประเทศที่พัฒนาแล้วเช่น ญี่ปุ่น มีการทำประกันโดยเฉลี่ยประมาณ 2 ฉบับต่อคนเลยนะครับ
บันทึก #1 14 ก.ย. 2551, 07:56:49
ผมมีความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า การทำประกันกรมธรรม์แรก ตัวแทนที่ขายประกันควรเสนอ หรือให้ขอคิดกับผู้ที่จะซื้อประกันเรื่องควรทำเป็นประเภทของการคุ้มครองชีวิตเมื่อท่านจากไปอย่างน้อยครอบครัวของท่านก็ยังพอที่จะตั้งหลักไปได้ซักระยะก็ยังดี(ที่วิเคราะห์ว่าเหมาะสมแล้ว)เพราะเป็นจุดมุ่งหมายของการทำประกันข้อแรก และเป็นการจ่ายเบี้ยประกันที่ถูกที่สุดของการทำประกัน อาจจะมีระยะเวลายาวนาน แต่จะไม่เกิดการละทิ้งกรมธรรม์เพราะคิดว่าเป็นการสิ้นเปลืองโดยสูญเปล่า
บันทึก #2 12 ธ.ค. 2552, 08:49:17
ขอบคุณมากครับท่านที่ให้ความเห็นทุกท่าน ผมตั้งกระทู้นี้มาเป็นเวลานานมาก แต่ไม่ค่อยมีการเสนอความคิดจากท่านที่เข้ามาเปิดอ่าน ครั้งแรกผมคิดว่าคงจะปิดกระทู้ดีกว่า แต่ก็มีบางท่านที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นเพิมเติม เปรียบเหมือนจุดเทียนในที่มืดสนิท เมื่อสว่างผมก็มองเห็นก็เลยคิดได้ว่าหากปิดกระทู้แล้วเรื่องการประกันก็จะเป็นเรื่องที่น่าเบื่อหน่ายและถึงขั้นน่ากลัวในความคิดบางท่าน ผมไม่มุ่งหวังให้เป็นกระทู้ที่ได้ทุกคำตอบแต่อยากให้กระทู้นี้เป็นเหมือนเทียนเล่มเล็กที่ถูกจุดไฟขึ้นในที่ ๆ ต้องการแสงสว่างของมัน มันจะมีคุณค่าอย่างยิ่ง ผมขอวิงวอนอีกครั้งครับท่าน สำหรับทุกท่านที่เปิดเข้ามาอ่าน รบกวนสละเวลานิดหน่อย ไม่ว่าจะเป็นทางด้านลบ หรือ ทางด้านบวก ประสบการณ์ที่ดีและไม่ดีตามที่ท่านได้พบมา ช่วยผมจุดเทียนเล่มนี้หน่อยครับ

เห็นด้วยกับ คนขายประกัน ผู้ตั้งคำถามครับ แต่ขอเพิ่มเติมนิดหนึ่งครับ คือตัวแทนต้องวิเคราะห์ ลูกค้าถึง ฐานะ รายได้ อาชีพ สุขภาพ บางคนบางครอบครัวมีรายได้น้อย บางครอบครัวปานกลาง บางครอบครัวรวยมากแต่ไม่มีประกันเลย ควรขายความคุ้มครอง + สะสมทรัพย์+สุขภาพ+บริหารภาษี นั่นเป็นลูกค้าส่วนน้อย แต่ตัวแทนยังต้องฝึกอีกมาก เพราะต้องผ่านด่านของความรู้สึกของลูกค้าที่ว่า ประกันหลอกลวง ประกันเสียเงินฟรี ประกันไม่คุ้ม ประกันเอาเปรียบ ประกันไม่จริงใจ ประกันขาดทุน ประกันเกรงใจ แต่ผมก็ยังยืนยันกับทุกคนว่าประกันมันดีแน่นอน เพียงแต่ว่ามันต้องเหมาะกับสภาวะของเขา เงินในกระเป๋าของเขา ภาระของเขา ดังนั้นตัวแทนควรเป็นมืออาชีพ ไม่ใช่สักแต่ว่าเปิดการขาย ปิดการขาย ได้เบี้ยมาก ได้คุณวุฒิ ได้รางวัล คิดว่าตัวเองสำเร็จ ผ่านไปปีเดียว ลูกค้าไม่ส่งต่อ มีปัญหาถกเถียงเรื่องข้อสัญญาภายหลัง ไม่รู้จริง  หัวใจปลาซิว แล้วออกจากอาชีพ ทิ้งลูกค้า ใจจริงอยากให้อัตราการทำประกัน ขั้นตำ 50% ภายในปี 2555 
 และที่สุดของที่สุดคือ อยากให้รัฐบาลที่มีอำนาจในบ้านเมือง ออกกฎหมายประกันชีวิตภาคบังคับ ขั้นตำ 100,000 บาท ตั้งแต่เกิด โดยแจ้งเกิดปุ๊บ จ่ายเบี้ยครั้งเดียว 100 บาทปั๊บ ใช้เลขประชาชนเป็นเลขกรมธรรมอัตโนมัติ ผมว่านี่คือของจริงและทำได้แน่นอน ปัญหาสังคมหลายๆอย่าง สามารถแก้ไขได้ด้วยเงินเพียง 100 บาท ผมว่าคุ้มนะครับ ท่านผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ครับผม



กรณีนี้...ประกันจะจ่ายมั้ยครับ
ก ทำสัญญาประกันชีวิตกับบริษัท ข ทุนประกัน 500000 บาท (แบบ ชำระเบี้ย 20 ปี คุ้มครองตลอดชีวิต)  และมีอนุสัญญาคุ้มครองโรคร้ายแรง(มีโรคมะเร็ง เป็นต้น) สำหรับผู้เอาประกัน พร้อมบุตรและภริยาของผู้เอาประกันด้วย  หลังจากนั้น 2 ปี  ก จดทะเบียนหย่ากับภริยา  และสมรสใหม่กับนางสาว ค หลังหย่าได้ 2 ปี (รวม 4 ปีแล้ว) ก ชำระเบี้ยได้ 6 ปี ภริยาเก่าได้เสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็ง  กรณีนี้...ประกันจะจ่ายมั้ยครับ (ในสัญญาประกันชีวิต ยังปรากฎชื่อภริยาเก่าอยู่)
จ่าย ชัวร์ 1000% ครับ สัญญาหลักมีผลบังคับ สัญญาเพิ่มเติม มีผลบังคับ 
สัญญา คุ้มครองโรคมะเร็ง เป็นสัญญาเพิ่มเติมที่เขียนไว้ชัดเจน คุ้มครอง 1.ผู้ทำ 2.ภรรยาผู้ทำมีชื่อ-สกุลชัดเจน 3.บุตรของผู้ทำที่ใส่ชื่อ-สกุลชัดเจน จำนวนคนแล้วแต่บริษัท  
สัญญาประกันชีวิต รายนี้ยังมีผลคุ้มครองบุคคลที่มีชื่อในกรมธรรม์อยู่ตลอดเวลาโดยสมบูรณ์ จนกว่าจะมีการแจ้งเปลี่ยนแปลงโดยเจ้าของกรมธรรม์ เช่น ยกเลิกสัญญามะเร็งออก ถึงจะหย่าและเปลี่ยนภรรยาไปกี่ครั้ง สัญญาประกันชีวิตฉบับนี้ยังมีผลคุ้มครองคนที่มีชื่อในกรมธรรม์นั้นทุกประการ รวมไปถึงบุตรที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งยังได้รับความคุ้มครองด้วย สัญญาเพิ่มเติมแบบนี้เป็น family protection บริษัทประกันชีวิตจะบังคับให้แนบรายชื่อ ผู้ที่เพิ่ม เช่น ภรรยา บุตร  และต้องลงชื่อด้วย และที่สำคัญต้องเสียเบี้ยเพิ่มของแต่ละคนด้วย บางบริษัทจะเหมา และเบี้ยคุ้มครองโรคพวกนี้จะถูกอย่างมาก นอกจากบริษัทประกันชีวิตแล้ว บรรดาบริษัทประกันวินาศภัยก็เอาไปจัด option ให้ลูกค้าด้วย
นี่คือ ความศักดิ์สิทธิ์ ของ พรบ.ประกันชีวิต ที่แตกต่างไปจาก พรบ.ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ว่าด้วยครอบครัวมรดก  ให้คำปรึกษาฟรี ครับ 081-9549249

ประกันชีวิตของ AIA ที่ประกัน 44 โรคร้าย นี้ดีไหมครับ
ประกันชีวิตของ AIA ที่ประกัน 44 โรคร้าย นี้ดีไหมครับ พอดีแฟนผมเขาจะให้ทำอ่ะครับ ขอคำแนะนำหน่อยครับ
ตามที่คุณ shung บอกนะครับ แต่ขอเพิ่มเติมดังนี้ครับ
สัญญาเพิ่มเติม 40 โรคร้ายแรงตัวนี้ ผมอ่านในกรมธรรม์แล้ว จะทำงาน เมื่อตรวจพบโรคร้ายแรงและยืนยันโดยหลักฐานทางการแพทย์ บริษัทประกันต้องจ่ายเงินก้อนตามสัญญาที่ซื้อ แก่ผู้เอาประกันเป็นการล่วงหน้า ส่วนสัญญาหลักยังดำเนินต่อไป เพราะยังไม่ครบสัญญาและยังไม่เสียชีวิต นั่นเอง ถ้าไม่เป็นอะไร เบี้ยก็เสียทิ้งรายปีเหมือนซื้อประกันรถเลยครับ แต่คุณต้องซื้อสัญญาหลักก่อน 
ข้อดีก็คือ 1.ราคาถูกมากๆ หลายๆบริษัททำออกมาแข่งกัน เป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้า
             2. สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงทางกรรมพันธุ์ที่เป็นมะเร็ง เบาหวาน(ตับอ่อนอักเสบ) ความดันสูง(หัวใจ) โรคหัวใจ  
             3. ความหมายของชีวิตเมื่อพบโรคร้าย โดยเฉพาะมะเร็ง  ตัวยา Sorafenib อย่างดีในการรักษามะเร็ง 
1 เดือนประมาณ 270,000 บาท ระยะรักษา 10 เดือน เท่าไหร่คิดเอา  แต่ถ้าคุณมีเงินเพียง 1,000,000 บาท คุณก็ได้ยาคุณภาพกลางๆ เข็มละ 60,000  ครบโดส 15 เข็ม  แต่ถ้าไม่มีเงินเลย ก็ใช้บัตรทอง รักษาใน รพ.รัฐบาล คุณจะได้รับ เคโม  ฟรี 
             อยากแนะนำท่านที่อายุ 35 ขึ้นไป โอกาสที่โรคจะโจมตีมีมาก เริ่มตั้งแต่ เบาหวาน ความดัน หัวใจ และเมื่อป่วยแล้วส่วนใหญ่มันจะชวนเพื่อนมาอยู่ด้วย เช่น อัมพฤก  เส้นเลือดสมองตีบ ฯลฯ ซื้อไว้เลยครับ เลือกบริษัทและตัวแทนดีๆที่เป็นมืออาชีพนะครับ

ทำไมพ่อค้า แม่ค้า ร้านค้า บริษัท จึงชอบเลี่ยงภาษีกัน !!!!!
มีภาษีซ้ำซ้อนหลายตัวครับ เช่น ร้านค้าเดียว มีภาษีของพาณิชย์ (การค้า) ภาษีโรงเรือน(เทศบาล) ภาษีธุรกิจ(ขนส่ง) ภาษีสรรพสามิต(ขายเหล้า) ภาษีนิติบุคคล(ร้าน) ภาษีบุคคลธรรมดา(รายได้เจ้าของร้าน) ภาษีมูลค่าเพิ่ม(ซื้อมาขายไป) ภาษีประกาศ(ป้าย)  ภาษี(ใต้โต๊ะ) และ ฯลฯ มีปัญหาเรื่องภาษี ยินดีให้คำปรึกษาฟรีครับ ที่081-9549249

รายได้แต่ล่ะเดือนเราควรจัดสรรอย่างไร
รายได้ทั้งหมดที่เราหามาแต่ล่ะเดือน เราควรจัดสรรอย่างไร เอาไปทำอะไรบ้างค่ากินค่าอยู่ค่าน้ำค่าไฟ ท่องเที่ยว ฯลฯ กี่%ดี
ช่วยแนะนำด้วยค่ะ
ลองใช้สูตรนี้นะครับ ซึ่งได้ผลดีมาก
ปกติ รายได้-รายจ่าย=เงินออม  
คุณต้องเปลี่ยนใหม่ เป็น  รายได้-เงินออม=รายจ่าย  ดีไหมครับ โดยจัดทำบัญชีครัวเรือนก่อน
เริ่มตั้งแต่  ออมแบบบังคับ 10% เช่น ใน10%นี้ซื้อประกันชีวิตบางส่วน ซื้อพันธบัตรบางส่วน ซื้อทองบางส่วน ซื้อเงินสกุลต่างประเทศไว้เก็บลืม
                                     30% คุณต้องบริหารค่าใช้จ่ายในบ้าน หนี้สิน งวดต่างๆ รวมทั้งบัตรเครดิต
                                     50% เป็นเงินลงทุน ที่ก่อให้เกิดรายได้ (INCOME) ความเสี่ยงมากน้อยตามถนัด
                                      10% ให้ความสุข ท่องเที่ยว สวัสดิการ ฉุกเฉิน
ส่วนใหญ่ จะเอารายได้-ค่าใช้จ่าย ก่อนออมซึ่งผิดวิธี และส่วนใหญ่อีกเช่นกัน เอา 50%ไปพอก30%
ซ้ำร้ายเอา 10%แรก และ 10%สุดท้ายบวกเข้าไปด้วย จะอยู่ได้อย่างไรครับ 
อยากคุยเรื่องวางแผนการเงินปรึกษาได้ ฟรี ครับ 081-9549249
ทำยังงัยให้ได้ลูกชาย
ข้อ 1. ใช้หลักวิทยาศาสตร์ โดย ต้อง นานๆครั้งอย่าถี่อาทิตย์/ครั้งเป็นใช้ได้  ทำลายเชื้อเพศหญิงซะโดยล้าง..ด้วยสบู่(ฤทธิ์ด่าง)ทุกครั้งก่อน/หลัง... เอาให้ลึกๆโดยเฉพาะด้านหลัง(มิใช่ประตูหลัง) เมนมาวันไหนนับไปอีกครึ่งเดือนก็เอาได้เลย  แต่...มีข้อเสนอใหม่
ข้อ 2. ก่อนแต่งงานหรือนอนกับใคร ต้องเอาชื่อและนามสกุล บวกกัน ทั้ง ชายและหญิง   อันนี้ง่าย  ตรงประเด็น ถูกต้อง 90% ไม่เชื่ออย่าลบหลู่
        ชาย   สมมุติชื่อ  ชาญวิทย์  อยู่เย็น  นับได้ 16
        หญิง  สมมุติชื่อ   นฤมล  ศรสวัสดิ์ 13     รวม= 29 เลขคี่ บุตรคนแรก=ชาย  ถ้าเลขคู่=หญิง 
สูตรไม่ลับนี้ลูกศิษย์พยาบาลจำได้ดี...แต่อย่าบอกว่าอาจารย์สอนนะ อายเขา

ถ้ากู้เงินซื้อบ้าน ปีหน้ายังหักภาษีได้หรือไม่
การกู้เงินเพื่อซื้อบ้าน ส่วนใหญ่จะผ่อนกับธนาคาร แต่ละเดือนธนาคารจะคิดเงินต้นบวกด้วยดอกเบี้ย เช่น จ่ายงวด 15,000 บาท/เดือน เป็นเงินต้น 6000 ดอกเบี้ย 9000 เฉพาะส่วนดอกเบี้ยเท่านั้นที่สามารถเอาไปเป็นค่าลดหย่อน ได้เช่นเดียวกับพวก ค่าบุตร ค่าประกันชีวิต ค่า กสช  ค่าบริจาค ค่าประกันสังคม  แต่มีเงื่อนไขว่า ไม่เกินปีละ 100,000  บาท  ใช้เป็นค่าลดหย่อนนะครับ ทำให้การเสียภาษีน้อยลง หรือได้เงินคืน เป็นโดยผลของกฎหมาย ซื้อปีไหนก็ลดภาษีได้ทุกปีครับ


LMF, RMF อยากทราบครับ ว่า ถ้า ผม ซื้อ แล้ว สามารถหัก-ภาษี ได้ อย่างไรบ้าง
คือ ผม แปลน คร่าว ๆ ไว้ โดยการคำนวณ ภาษี ว่าต้องเสียเท่าไหร่ ในปีหน้า ... แล้วทีนี้ คำนวณ แล้ว โดน หักภาษี เป็นหมื่น อ่ะ ... !!! เศร้า เลย ถ้าผมซื้อ RMF, LMF ไว้สักตัว สักสามสี่หมื่น ผมสามารถ หักได้หมดเลยป่าวครับ

แล้วมีตัวไหน แนะนำบ้างครับ
สมมุติว่าคุณมีรายได้ทั้งปี 500,000  หักค่าใช้จ่าย 60000 หักค่าลดหย่อน(ตัวเอง คู่สมรส บุตร ดอกเบี้ยบ้าน ประกันสังคม  กสช )ประมาณ 150,000  เป็นรายได้หลังหักค่าใชจ่ายประมาณ 290,000 เข้าภาษีอัตราก้าวหน้าฐาน 10%  150,000 แรกยกเว้น คงเหลือคำนวณ 140,000  เสียภาษี 10%=14,000 ประมาณนี้ หรือเปล่าครับ  วิธีแก้..(ไม่ได้แนะนำให้หลบ) 
1. ซื้อ RMF หรือ LTF  ไว้เอาดอก หรือลดภาษีซึ่งลดได้หลายแสน แต่ข้อจำกัด ซื้อได้ไม่เกิน 15% ของรายได้ =75,000  และต้องจ่ายต่อเนื่องไปอย่างน้อย 5 ปี ห้ามเลิก ถ้าเลิกต้องคืนค่าลดหย่อนภาษีคืนทั้งหมด (อาจชักกระตุกเพราะ RMF,LTF เป็นการลงทุนที่ต้องยอมรับความเสี่ยง เพราะไปอิงอยู่กับตลาดหุ้น เว้นแต่ว่าจะสลับไปกองที่ไม่เสี่ยง)แต่ยังเสียภาษี 6500 แต่ถ้าซื้อ 40,000  ก็ยังเสียภาษี 10,000 บาทครับ
2. บริจาคเงินให้หลวงพ่อบูรณะหอระฆัง 20,000 บาท เอาใบอนุโมทนามาลดหย่อน ยังเสียภาษีอยู่ 4500
3. ซื้อประกันชีวิต ลดหย่อนได้ 100,000 เต็ม
หรืออาจใช้ 3 วิธีรวมกัน คุณต้องจ่ายเงินออมให้ได้ 140,000  เมื่อเอา 290,000-140,000 - 150,000 แรก จะเหลือ 0 พอดีไม่เสียภาษีครับ ขอเคล็ดลับเพิ่มได้ครับ 081-9549249

เป็นตัวแทนประกัน เค้าหาลูกค้าจากไหนกันนอกจากญาติกับเพื่อน
เป็นตัวแทนประกัน เค้าหาลูกค้าจากไหนกันนอกจากเพื่อนกับญาติ
พอดีสมัครเป็นตัวแทนบ.อยุธยาอลิอัลซ์ซีพีไว้ค่ะ ลองขายเพื่อนกับญาติแล้วแต่ไม่สำเร็จ ยังงี้เค้าหาลูกค้ากันยังไงค่ะ มีใจบริการเต็มที่ แต่ลูกค้าหายากจัง
ผมอยู่AIAครับอยู่มา12ปี ประสบการณ์สอนว่า สิ่งที่สำคัญคือรายชื่อผู้มุ่งหวัง ส่วนบริษัทและตัวสินค้าอยู่ระดับรองๆ ถ้าไม่เตรียมตัวนี้ก็จะเกิดความกดดันเพราะสอบได้แล้วอบรมแล้วได้codeแล้ว แบบเก่าจะเป็นว่าขายเวียนออกแบบก้นหอยจากญาติพี่น้อง คนรู้จัก เพื่อนๆ ไปสู่คนไม่รู้จัก แบบใหม่ที่ผมนำมาใช้ เดี๋ยวนี้ขายไม่ทันและมีน้องๆที่มองดูระบบแล้วเห็นว่าเป็นอนาคต ก็ออกมาสู่ระบบFulltimeจำนวนมาก อยู่ที่ระบบของหน่วยที่ตั้งไว้ แต่อยากฝากให้ข้อคิดและกำลังใจ ว่า
1. อย่ากลัวคนแปลกหน้า เพราะคนเราจะเป็นคนแปลกหน้าเฉพาะครั้งแรกที่เจอกัน ทักก่อน ขอแลกเบอร์ดโทร
ทันที เก็บให้มากที่สุด
2. ออกพบผู้มุ่งหวังทุกวันทำให้เป็นหน้าที่จนมันซึมเข้าไปในการะแสเลือด
3. ใช้สถิติเป็นตัวจับ พบ10รายตามขั้นตอนเป๊ะขายได้1 ถือว่า OK ฉลองเลย ต่อไปจะเริ่มเก่งขีดฆ่ารายเก่าออกเรื่อยๆ เพิ่มรายชื่อใหม่ทุกวัน อย่าแก้ตัวว่ามันยาก ทำบ่อยๆจะชิน
4. มันเป็นงานปฎิเสธ ลูกค้าจะต้องบอกว่า ไม่มีเงิน ยังไม่พร้อม ถามกันก่อน ทำเยอะแล้ว ขอคิดดูก่อน ถ้าอยากทำจะโทรไปบอก ฯลฯ โป๊ะเชะเลยอย่างนี้เป็นลูกค้าของแท้ มันใช่อาชีพเราแล้ว ยิ้มรับแล้วลุยต่อ
ส่วนใหญ่ขายได้
ปัญหาคือผู้มุ่งหวังจำนวนมากๆจะเอามาจากไหน เพราะไอ้ตัว 2ข้อที่มันติดอยู่ตรงคอ คือ จะไปขายให้ใคร กับ จะขายอย่างไร อันหลังยังพอทำเนา อันแรกสิ มันกดดัน ขอแนะนำอย่างนี้ครับ
 แบบเดิม ลิสท์รายชื่อเพื่อน ญาติ คนที่ทำงาน หน้าปากซอย ได้มาแล้ว ก็วิเคราะห์ มีเงินไหม ตัดสินใจได้ไหม ว่าแล้วก็โทรไปพบ ไปขาย  ถ้ารายชื่อหมดเร็วก็หาเพิ่มโดยสมมุติว่าคุณจะแต่งงานจะเชิญใคร ขึ้นบ้านใหม่จะเชิญใคร เพื่อนของลูกที่โรงเรียนที่มีตังค์ฯลฯ วังวนตัวนี้กดดัน
 ลองฟังแบบใหม่ที่ใช้อยู่ สำหรับคุณแม่บ้านหรือพนักงานบริษัท ราชการ ในแถบเมืองที่ไม่อยากไปไกล ผมจะพาออกสำรวจตลาด สอบถามความพึงพอใจเฉพาะร้านค้า บอกลูกค้าว่าไม่ได้มาขายประกัน เอาถนนสายเดียว หรือซอยเดียว สำรวจอยู่ 5 วันได้ข้อมูลมาเป็นปึ๊งประมาณ 200 ใบพร้อมเบอร์โทร ผลคือ30%ขายได้ขณะสำรวจ 70%ขายได้จากรายชื่อแนะนำ ตัวแทนใหม่ตื่นเต้นมาก เพราะลูกค้ารายแรกๆไม่ใช่คนรู้จัก วิธีนี้คุณจะทำงานได้ทุกวันที่คุณว่าง แต่ผมจะไม่ให้ความสนใจในส่วนนี้ เพราะผมจะชวนน้องๆมาทำเต็มเวลา โดยผมเตรียมรายชื่อผู้มุ่งหวัง จากสมาชิกสหกรณ์ที่ผมไปขายประกันหนี้สินเป็นกลุ่มใหญ่ ขณะนี้มีข้อมูลอยู่ประมาณ 4000 ราย รายชื่อจำพวกนี้เป็นประเภทที่กู้เงินจากสหกรณ์วงเงินคนละ 1,500,000-2,000,000 บาทไปสดๆ
แล้วก็แบ่งรายชื่อให้น้องๆ เพื่อตามไปขายพร้อมบอกวิธีโทรนัด ผลที่ได้คือน้องแต่ละคนมีรายได้เดือนละ 30000 บาทขั้นตำ โดยให้ไต่ระดับ ขายแบบรายเดือน 
โดย จันทร์-ศุกร์ 09.00 น ขึ้นรถพร้อมกันหน้าออฟฟิส 17.00 กลับบ้านใครบ้านมัน เสาร์อาทิตย์ หยุด เอาแค่นี้ก่อน ค่อยๆปรับ ถ้าใจมา ไม่ว่าอยู่บริษัทไหน สำเร็จแน่นอน
   พี่รัชพล อยู่เย็น
081-9549249
www.uiclick.com
ดิฉันได้มีโอกาสอ่านข้อความของคุณ รัชพล อยู่เย็น
ขอบคุณสำหรับข้อเสนอแนะวิธิการดีๆในการหาลูกค้าเพิ่มค่ะ
เพราะดิฉันก็เป็นคนนึงที่ทำธุรกิจประกันชีวิต
ชอบมากค่ะ คำแนะนำของพี่ รัชพล อยู่เย็น ซึ้งจิงๆค่ะพี่ เพราะตอนนี้หนูโดนผู้นำในทีมปล่อยทิ้งแล้วค่ะ 
ไอ้จุดประสงค์ของเค้า คืออยากให้เราได้ทำงานเองเพราะเงินเดือนก้อไม่น้อยแร้ว
แต่เรายังไม่มีรถนี่สิคะ ก้อไม่รุ้จะทำยังงัย .. รายชื่อผู้มุ่งหวังก้อมีเยอะอยุ่นะประมาณ 500 ขึ้นไปค่ะ
แต่รายชื่อพวกนั้น มีแต่คนที่อยุ่ไกลบ้านเรยค่ะ(คือเราทำงานนอกพื้นที่อ่ะค่ะ)  หนูอยากทราบว่า ถ้าเป็นพี่จะทำยังงัยดีคะ?
......แต่หนูไม่ท้อค่ะ คำแนะนำของพี่ ทำให้หนูได้ข้อคิดอะไรอีกเยอะเรย ยังงัยขอบคุณมากนะคะ
ชอบมากเลยค่ะ ในคำตอบของพี่รัชพล อยู่เย็น เราพร้อมจะมีกำลังใจสู้ได้ จากการเรียนรู้ประสบการณ์ของรุ่นพี่


งานแบบนี้ควรจะจดทะเบียนเป็นบริษัท หรือเป็นแบบบุคคลธรรมดาดีครับ
ผมมีข้อสงสัยขอสอบถามดังนี้ครับ
1. ผมกำลังรับงานจากบริษัทหนึ่งแล้วไปเสนออีกบริษัทหนึ่ง โดยที่ผมบวก%เพิ่มเข้าไป เช่น รับงานซ่อมพื้นมามูลค่า 20,000 บาท แต่ผมเอาเงินสดส่วนตัวจ่ายผู้รับเหมาไปก่อน 20,000 บาท และผมบวกเพิ่มไปเป็น 24,000 บาท แล้วไปเรียกเก็บกับบริษัทที่ผมไปเสนองาน ซี่งงานลักษณะนี้มีค่อนข้างต่อเนื่องเหมือนกัน ซึ่งทุกครั้งบริษัทที่ผมไปเสนองานนั้น เค้าจะหักจากราคาที่เสนอไป 3% ตลอด เพราะผมไม่มีใบเสร็จรับเงิน/ใบกับกับภาษีให้เค้า แต่ระยะหลังทางบริษัทเค้าอยากได้ที่มีใบเสร็จรับเงินด้วย แต่ผมไม่มีออกให้ ผมควรจะทำอย่างไรดีครับ จะต้องตั้งเป็นบริษัทเอง หรือเป็นร้านค้า หรือเป็นห้างหุ้นส่วนดีครับ
2.ถ้าผมจะจัดตั้งเป็นห้างหุ้นส่วน โดยที่ใช้เงินลงทุนหมุนเวียน 100,000 บาท จะทำได้หรือไม่ครับ แล้วจะมีค่าธรรมเนียมในการจัดตั้งประมาณเท่าไร (พอดีอ่านในคู่มือแล้วงงๆนะครับ)
รบกวนช่วยให้คำแนะนำด้วยครับ 
คิดจะทำงานใหญ่ใจต้องกล้า ข้อมูลต้องดี ใจต้องถึง มองเห็นอนาคต 
       ก็แค่ไปรับงานมาต่อ เอากำไรแล้ว ก็เสียภาษีบ้าง ก็ธรรมดา 
            งานไม่ใหญ่ รายได้ไม่มาก ก็แค่จดทะเบียนพาณิชย์ ตั้งชื่อร้าน ไม่กี่ตังค์ ไปซื้อใบเสร็จเปล่าๆมา
พร้อมปั๊มชื่อร้าน เวลารับเงินใครก็ออกใบเสร็จ ดูดีกว่าไม่มี ขืนเซ็นแต่ใบสำคัญรับเงินก็แย่ 
ความน่าเชื่อถือไม่มี ครึ่งปีก็ยื่นเสียภาษี นิดหน่อยครับ ปลายปีก็จ่ายอีกที ที่เขาหักเราไว้แล้ว 3%ก็หักออก
ถ้าคำนวณแล้วจ่ายไว้เกินก็ขอคืน(กำลังฮิตมาก)
            หนักขึ้นมาหน่อย ก็จดคณะบุคคลกับเพื่อนอีกสัก 1คน เพื่อรับงาน จดทำอย่างไรโทรมาถามนะครับ
อันนี้ต้องขอหมายเลขผู้เสียภาษี ครึ่งปีปลายปีก็ยื่นปกติ ที่หักไว้ ณ ที่จ่ายก็เอามาหักออก (ดีไม่ดีได้คืนด้วย)
ที่จ๊าบมากก็คือ ไม่ต้องเสียตังค์จ้างทำบัญชีแถมยังหักค่าใช้จ่ายได้อีกเพียบ สุดๆคือมีค่าลดหย่อนด้วย
ณ ที่จ่ายหักไว้ก็หักไว้ เจอค่าลดหย่อน เป็นได้คืนทุกราย งานชิ้นละแสนสองแสนสบายมาก สรรพากรก็ได้ภาษีน้อยหน่อยแต่โทษทีมันถูกต้องตามกฎหมาย  
           คิดทำงานใหญ่ใจต้องถึง จด หจก ไง หรือจดบริษัทไปเลย แต่โทษทีค่าจดเป็นหมื่น ค่าทำบัญชี 
ค่าขอลายเซ็นผู้สอบบัญชีปีหนึ่งหมื่นเศษเชียวครับ สรรพากรชอบมากเพราะได้เงินเต็มเม็ดเต็มหน่วย
แต่คิดใหญ่ต้องทำใหญ่ จดบริษัทครับเอาเราเมียเราลูกเรา สัก 3คนก็พอ มากคนวุ่นวาย ผมเคยบอกบริษัทหลายแห่งปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นลงมาซะจะได้ไม่วุ่นวายทุนจดทะเบียนเหลือสักไม่เกินห้าล้าน(ห้าแสนพอดี)
ใช้อัตราภาษีก้าวหน้าได้ด้วย(คือข้อที่เจ๋ง)คือแสนห้าแรกไม่เสียไงครับ แต่ถ้าคาดว่ารายได้จะเกินล้านแปดเป็นต้องรีบไปจดvat ช้าเป็นโดน (เคยมาแล้ว)สรรพากรจะยิ้มรับและบอกว่า เชิญทางนี้เลยค่ะ ทันทีเลยครับ

          OK ไหมครับ คนเดียวก็สู้ไหว
           คณะบุคคล 2คน อาจผิดใจกันในอนาคต มุมมองดีขึ้น
           ตั้ง หจก บริษัท ผิดใจกันหลายคน ค่าใช้จ่าสูง ต้องฝีมือ งานใหญ่คุ้ม มุมมองสุดยอด
เพราะคุณคือ "ผู้จัดการใหญ่"
           ผมก็ยังงี้แหละครับ ว่างก็โทรหากัน  
                            รัชพล อยู่เย็น
                           081-9549249
www.ulclick.com
ผมทำธุรกิจบน internet ซึ่งประมาณรายได้ได้ง่ายจะเลี่ยงภาษีได้ยังไงบ้างครับผู้ใช้ที่ได้รับคำเชิญให้ตอบ:
รัชพล อยู่เย็น
ธุรกิจผมสรรพากรประมาณรายได้ได้ง่ายเพราะงั้น คงลดรายได้ได้ยากครับ
ถ้าผมเพิ่มรายจ่ายเข้าไปเช่น
- ใช้บริการจากต่างประเทศ เช่น จ้าง programmer แพงๆ หรือ ใช้บริการอื่นๆที่ไม่ใช่สินค้า เค้าจะตรวจสอบได้มั้ยครับว่าจ้างไปเท่าไหร่
- หารวบรวมบิลสินค้าจากต่างประเทศ
-ซื้อรถให้ตัวเอง ในนามบริษัท
อะไรแบบนี้พอช่วยได้มั้ยครับ หรือมีวิธีอื่นดีดี รบกวนแนะนำด้วยครับ

ขอบคุณครับ
คำตอบดีสุด
ขอบคุณที่ขอให้ตอบ อาจไม่เป็นที่พอใจนะครับ
คำถาม น่าจะเป็นว่า จะบริหารภาษีอย่างไรให้ประหยัดภาษีได้มากที่สุดโดยมิใช่การหลบเลี่ยงภาษี OK นะครับ
ธุรกิจบนinternet (มีหมายเลขพาณิชย์อิเลคทรอนิกส์ แต่สรรพากรพบไม่หมดเพราะมันเยอะ แต่ดูหัวข้อข่าว "สรรพากรเล็งรีดภาษีขายสินค้าและบริการทางอินเตอร์เน็ท")เห็นไหมครับใกล้เข้ามาแล้ว
ธุรกิจคุณสรรพากรประมาณการรายได้ได้ง่าย อยากลดรายได้ (ก็แปลกแต่จริง ไม่อยากเสียภาษีมากว่างั้นเถอะ)
ถ้าเพิ่มรายจ่ายเข้าไป(อันนี้ถูกต้องแต่ต้องเป็นรายจ่ายที่กฎหมายยอมรับ มือไม่ถึงก็เข้าเนื้อ ย้ำมือไม่ถึงเข้าเนื้อ)
โดย...อยากจ้างโปรแกรมเมอร์จากนอกแพงๆ(เสียตังค์โดยเปล่าประโยชน์)ตรวจสอบได้ครับ
โดย..หารวบรวมบิลจากต่างประเทศ เพื่อเอามาลด(อย่าแม้แต่จะคิดของนอกเป็นพิษยิ่งบิลไม่ตรงกับ
ธุรกิจ ส่อเจตนาหลบภาษี คุณว่าจะโดนกี่เท่า อย่าลืมว่าสรรพากรเป็นศาลในตัวนะครับ)(ขอโทษครับ)
โดย....ซื้อรถให้ตัวเองในนามบริษัท (ก็ซื้อไปสิครับ อย่างน้อยก็ได้หักค่าเสื่อมแต่ละปี เก็บบิลน้ำมัน 
จ้างคนขับ เอามาใช้ทำอะไรครับ ส่งของหรือขับเล่น ถ้าส่งของก็เก็บบิลดีเซลนะครับสรรพากรไม่รับบิล
เบนซิน ผมเตือนไว้อย่าง รถของคุณราคาแพงๆจริงครับ เช่น ประจำตำแหน่งประธาน ราคา 3ล้าน(สมมุติ)
คิดค่าเสื่อมราคาไป 10 ปีเหลือ=0 แล้วขายทอดได้ราคาล้านห้า สรรพากรเล็งรีดภาษีที่ตัวล้านห้านะครับ
ไม่ใช่ที่ราคา 0 เจ็บครับ)
  ผมมีวิธีที่คนหลายล้านคนนึกไม่ถึง ลดค่าใช้จ่ายแบบชะงัด คุณจะเอาเท่าไหร่ ขออนุญาตไม่ตอบที่นี่ ต้องคุยกันครับ (ถูกต้องตามกฎหมายครับ)
            รัชพล อยู่เย็น
              081-9549249
 ตอบเพิ่มเติม จะจ้างบริษัทหรือวิชาชีพอิสระ มันก็จ้างทำของในแง่กฎหมาย ต้องออกใบเสร็จ(ค่าใช้จ่าย
ต้องเป็นหลักฐานไม่ใชโมเมชั่นไม่งั้นเงินก็หายไปเฉยๆเดี๋ยวบริษัทจัดทำบัญชีก็ทำใบยืมให้คุณเซ็นหรอก) ยิ่งจ้างพวกนี้คุณต้องหัก ณ ที่จ่าย 1-3%ด้วยไม่หมู  คนต่างชาติรับเงินไปแล้วต้องเสียภาษีแน่นอนครับมากกว่าประเทศเราด้วย เขาถึงได้พัฒนาไง (ขอโทษครับแรงไป)
บริษัทใช้หุ้นส่วน 3 คน พ่อ แม่ ลูก ไม่มากเรื่อง ทุนจด ไม่เกิน 5ล้าน เสียภาษีถูกแบบอัตราก้าวหน้า กิจการดีค่อยเพิ่ม
          ขอบคุณครับ

อยากทราบว่ารายได้ก่อนหักประกันสังคม 186311.5 บาท มีหักประกันสังคม 7552 บาท ต้องยื่นแบบเสียภาษีหรือไม่
มีรายได้แล้วต้องยื่นแบบคือหน้าที่ เป็นคนดีของสังคม
รายได้รวม 186,311
หักค่าใช้จ่ายก่อน(60000)
หักค่าลดหย่อนตนเอง/คู่สมรส(30000/30000)ลูกเรียน 17000/คน ดอกบ้าน 100000 ประกันสังคม 9000 เบี้ยประกัน 100000 
หักเงินบริจาคหลวงพ่อ สัก 800 
เหลือเท่าไหร่เอาค่ายกเว้น 150000 มาหักอีก แล้วค่อยเอามาคำนวณภาษี เห็นไหมไม่ได้เสียภาษีจ้อย
แต่ต้องยื่นครับ เป็นเหตุผลสำคัญที่เจ้านายจะต้องอนุญาต เมื่อเราบอกว่า วันนี้ขออนุญาตไปเสียภาษีทั้งวัน
ขอบคุณครับ
รัชพล อยู่เย็น
081-9549249

วิธีเอารูปขนาดใหญ่ลงเว็ปไซด์ ให้เปิดได้เร็ว และมีความละเอียดเหมือนเดิม
ต้องการเอารูปขนาดใหญ่ลงโชว์บนเว็ปไซด์ แล้วให้เปิดดูได้เร็ว และมีความละเอียดเหมือนเดิม จะมีวิธีการอย่างไร (โปรแกรมที่ใช้เขียนเว็ป Dreamweaver 8)
ผมไม่ใช่มือโปรตอบตามประสบการณ์นะครับ
1. ปรับลดขนาดจุดแต่ขนาดภาพเท่าเดิม เช่น รูปขนาด 3mb เหลือสัก 900 kb คุณภาพเท่าเดิม
หรือลดลงเล็กน้อย โดยใช้โปรแกรม Riot ครับ จุดมันน้อยเปิดเร็วมากครับ
2. upload ขึ้นไป ผมต้องรีบลบออกจากเวปเลยครับ เพราะมันใหญ่มากๆ (วีธีupload ก็upไปที่webโดยตรง
หรือupไว้ที่ PICASA ห้องส่วนตัว เมื่อต้องการใช้ก็ดึงเอาไปใช้) ใหญ่แน่นอนครับ
ไม่ทราบว่าตรงวัตถุประสงค์หรือเปล่า

            รัชพล อยู่เย็น
www.ulclick.com


จะยื่นแบบเสียภาษี จะต้องทำยังไง ช่วงไหน มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง
อยากยื่นแบบค่ะ ทั้งที่เงินเดือนไม่ถึงกับต้องเสียภาษี

ขอบคุณล่วงหน้านะคะ
เป็นความคิดที่ดี ยื่นแบบคือหน้าที่เป็นคนดีของสังคม
เป็นข้าราชการหรือลูกจ้าง เงินเดือนถึงไม่ถึงก็ควรยื่น เพราะควรรู้และทำให้เป็น ภาษีเงินได้ นับ 1มค-31ธค 
ยื่นแบบได้ตั้งแต่ 1มค-31มีค เลยนี้เป็นโดนปรับครับ ถ้าสามีเป็นข้าราชการหรือลูกจ้างเหมือนกัน ก็สามารถ
เอารายได้มารวมกันแล้วคำนวณก็ได้ หรือแยกยื่นก็ได้(อันไหนเสียน้อยก็เอาอันนั้น คุณว่ามั๊ย)
สิ่งที่ต้องเตรียม หนังสือรับรองรายได้ และเอกสารเพื่อลดหย่อน เช่นหนังสือรับรองเบี้ยประกันชีวิต สำเนาบัตรพ่อแม่ที่แก่เฒ่า หนังสือรับรอง
ดอกเบี้ยเช่าซื้อบ้าน(รถไม่ได้นะครับ) ชื่อลูกที่กำลังเรียน เงินประกันสังคมที่โดนหักหรือ กบข RMF/LTF
ใบอนุโมทนาที่บริจากเงินให้หลวงพ่อ อ้ออย่าลืมชื่อคู่สมรสด้วยนะครับ
  การยื่นก็ง่ายมาก ยื่นทางอินเตอร์เน็ท ฮิตมาก(ข้อควรจำ เอกสารประกอบต้องพร้อมเพราะกดส่งแล้วแก้ไขไม่ได้) หรือ อีกทางไปที่ทำการสรรพากร แค่บอกว่า พี่คะดิฉันจะมายื่นแบบ แต่ไม่สันทัดเรื่องตัวเลข รบกวนพี่ช่วยหน่อยได้ไหมคะนี่รายละเอียดทั้งหมดค่ะ หลังจากนั้นรอประมาณ 10 นาทีเจ้าหน้าที่ก็จะเอาแบบที่กรอกแล้วมาให้เซ็น พร้อมบอกว่า คุณไม่ได้เสียภาษีค่ะแต่รบกวนรอรับสลิปที่เครื่องหมายเลข7 นะคะ
เป็นอันเสร็จ(ถ้าไม่เสร็จ หรือคนเยอะ หรือแวบไปที่อื่น วันหน้าก็ขออนุญาตออกมาอีกครับ)
    ถ้าเป็นธุรกิจ หรือร้านค้า ประกอบการ ต้องยื่น 2 ครั้ง 1มค-30มิย ให้เวลายื่นแบบ 3 เดือนเหมือนกันคือ 1กค-30กย เลยนี้เป็นโดนปรับ รอบสองเอาเงินรอบ 1กค-31ธค ยื่น 1มค-31มีค เลยนี้ก็โดนเหมือนกัน
มีอะไรก็ลองโทรถามนะครับ 
     รัชพล อยู่เย็น
   081-9549249

ถ้ารายได้ไม่ถึงล้านบาทต่อปีต้องไปยื่นเสียภาษีมั๊ยคะ
แล้วถ้ามีการจดทะเบียนร้านค้าแล้วรายได้ไม่ถึงแต่ไม่ได้ไปยื่นจะต้องเสียค่าอะไรย้อนหลังมั๊ยคะ
ยื่นแบบคือหน้าที่ เป็นคนดีของสังคมครับ
จดทะเบียนการค้าแล้ว มีชื่อร้านแล้ว ซื้อของมาใส่ร้านแล้ว ขายของแล้ว ขายดีด้วย เดี๋ยวนี้เห็น จนท.สรรพากร
มานั่งอยู่ถนนฝั่งตรงข้ามแล้วมองมาที่ร้านเรา มาตั้ง 2 วัน ทีแรกไม่เอะใจ แต่ร้านข้างๆบอกว่าสรรพากรมาตรวจสอบร้านคุณ ตกใจมาก เขามาบอกว่าคุณถูกประเมินรายได้เพื่อการคำนวณภาษี ขอดู............เห็นว่าต่อวันคุณมีรายรับ.......ต่อเดือน ต่อปี.....เมื่อหักค่าใช้จ่ายตามมาตรา 40(8)และค่าลดหย่อนแล้วคุณต้องเสียภาษีปีละ........โดยแบ่งเสียทุกครึ่งปี.............แต่ปรากฏว่าครึ่งปีที่ผ่านมาคุณไม่ได้ไปเสียภาษี....จึงมีค่าปรับหรือเงินเพิ่มย้อนหลังไปอีก 1 ปีเป็นเงิน...................พรุ่งนี้เชิญเจ้าของร้านไปพบที่สรรพากรเวลา................. 

และความยุ่งยากก็ตามมา นี่คือความจริงที่รอคุณอยู่ 
อย่านอนใจ ว่างๆโทรมาปรึกษานะครับ ฟรีครับ
  รัชพล อยู่เย็น
   081-9549249



ฉันต้องเสียภาษีมั้ย
รบกวนสอบถามหน่อยค่ะ ดิฉันเป็นนักศึกษาค่ะ ตอนนี้อยู่ปี5 อีกปีนึงถึงจะจบ เมื่อตอนที่ดิฉันอยู่ปี 3 ดิฉันได้ไปทำงานสอนพิเศษที่สถานบันกวดวิชาแห่งหนึ่งค่ะ ดิฉันทำงานอยู่ประมาณ 8 เดือนค่ะ เงินเดือนรวมกันทั้งหมดก็ไม่เกินแสนบาทหรอกค่ะ อย่างนี้ต้องเสียภาษีมั้ยคะ ทราบว่ามีเงินได้ไม่เกินแสนห้าได้รับยกเว้นภาษี ตอนนี้ดิฉันไม่ได้ทำงานแล้ว เรียนอย่างเดียว เพราะแค่เรียนก็หนักมาก แต่ก็ยังพอมีเวลาได้ลงทุนในกองทุนรวมบ้างค่ะ ได้ผลตอบแทนพอสมควร อยากทราบว่าในกรณีของดิฉัน ต้องทำอย่างไรคะ ต้องเสียภาษีหรือป่าว ดิฉันจะขอเลขประจำตัวผู้เสียภาษีได้ตอนนี้มั้ยคะ เพราะต่อไปอยากจะเล่นหุ้นค่ะ แต่จะใช้เงินออมที่มีค่ะส่วนหนึ่งมาเล่น อย่างนี้จะสามารถทำได้หรือป่าวคะ แบบว่ากำลังร้อนวิชา ศึกษามาพอสมควรค่ะเรื่องหุ้น บวกกับประสบการณ์ที่ซื้อขายกองทุนรวมมา เลขประจำตัวผู้เสียภาษี ขอได้ตอนนี้แต่เงินได้ไม่ถึงขั้นก็ไม่ต้องเสียภาษี ดิฉันเข้าใจถูกมั้ยคะ
ถ้าคุณมีรายได้ ยื่นแบบคือหน้าที่ เป็นคนดีของสังคม เสียไม่เสียอีกเรื่องหนึ่ง
ดังนั้น ขอมีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีได้เลย ใช้เลข ปชช ก็ได้ ย้ำมีเงินได้ต้องยื่น เช่น เงินเดือน ค่าจ้าง เงินปันผล
(รวมRMF/LTF) ค่าเช่า ลิขสิทธิ์ รับเหมา ทนาย บัญชี ร้านค้า บริการ เยอะแยะ
อยู่ที่ว่าเราบริหารภาษีเป็นหรือไม่ ขอชื่นชมที่เล่นหุ้นเป็นแต่อายุยังน้อย อนาคตร่ำรวยแน่นอน ถ้าจะให้ดีต้อง
ผ่านหลักสูตรที่ปรึกษาทางการเงินจาก USA ดีกรียิ่งแรงแซงทางโค้ง
ขอให้จำกฎเกณฑ์ เงินได้พึงประเมิน หัก ค่าใช้จ่าย หักค่าลดหย่อน เป็นเงินได้สุทธิหักค่ายกเว้น เป็นภาษี สูตรตายตัว เงินได้สุทธิ เหลือ 500,000 บาทเสียภาษี 35,000 บาท
มีเวลาโทรปรึกษาได้นะเศรษฐีน้อย
รัชพล อยู่เย็น
081-9549249
www.ULclick.com

มีอะไรบ้างที่นำมาหักลดหย่อนภาษีได้ครับ
ได้ยินมาว่ามีเยอะมาก
แล้วแต่ละอย่างหักได้เท่าไหร่ครับ
ถามเป็นความรู้ครับ
ขอบคุณมากครับ
มีรายได้ ยื่นแบบคือหน้าที่ เป็นคนดีของสังคม
เริ่มต้นอย่างนี้นะครับ
รายได้ทั้งหมดตั้ง
หัก ค่าใช้จ่าย 40%ไม่เกิน 60000
เหลือเท่าไหร่
หักค่าลดหย่อน
 ตัวเอง 30000
 คู่สมรส 30000
 ลูกเรียน คนละ 17000 ไม่เรียน 15,000
  พ่อแม่อายุ 60+คนละ 30000
  ดอกเบี้ยซื้อบ้าน ไม่เกิน 100000
  ประกันสังคม ไม่เกิน 9000
  เบี้ยประกันชีวิตตัวเอง 100,000
  เบี้ยประกันคู่สมรส(ไม่ได้ทำงาน) 10,000 
  เบี้ยประกันแบบบำนาญ 200,000 
  เบี้ยประกันสุขภาพพ่อแม่ คนละ 15,000
  RMF/LTF รวม กบข.กสช ประกันบำนาญ (รวม)ไม่เกิน 500,000
   เหลือเท่าไร หักด้วยเงินบริจาค ไม่เกิน 10%
   เป็นเงินได้สุทธิเพื่อการคำนวณ(หลายคนดูแล้วของฉันหักแค่อันแรกก็ไม่เหลือไปคำนวณภาษีแล้ว ฮา)
          วิธีคำนวณแบบอัตราก้าวหน้า
  เงินไดสุทธิ
                  1-150,000 แรก ครม.บอกว่าไม่ต้องจ่าย
                   150,001-500,000 จ่าย 10%=35,000
                   500,001-1,000,000 จ่าย 20%=100,000 
                  1,000,001-4,000,000 จ่าย 30%=900,000
     เงินได้สุทธิ 4,000,000 เสียภาษี 1,035,000 บาท
     ถามว่า อยากเสียภาษีมากหรือเสียน้อย ดีครับ
             ปรึกษาฟรีครับ
               รัชพล อยู่เย็น
           081-9549249

คุณคิดว่าการรักษาในโรงพยาบาล ระหว่าง "จ่ายเงินเอง" กับ " ใช้ประกันสังคม" มาตรฐานเดียวกันหรือไม่
ดูรายการทีวีเมื่อเช้า ผอ.โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งยืนยันว่า เหมือนกัน มาตรฐานเดียวกัน

บังเอิญว่ามีคนมาร้องเรียน

จากประสบการณ์
พี่ที่ทำงานคนหนึ่งอ้วนมาก แกลื่นล้มก้นจ้ำเบ้าในห้องน้ำ ใช้สิทธิ์ประกันสังคม หมอจับๆสะโพกดูบอกกล้ามเนื้ออักเสบให้ยามากิน
2 สัปดาห์ผ่านไปยังปวดมากและเดินแทบไม่ได้
ไปหาอีกครั้ง แต่จ่ายเงินเอง เอ๊กซเรย์พบว่า กระดูกสะโพกร้าว

เป็นไงครับ มาตรฐานเดียวกันเลยยยยยยย
ดีสุด
มาตรฐานเดียวกันครับขอเถียง คือในเรื่องนั้นๆ
ยกตัวอย่าง ผู้ป่วยโดนเหล็กทับนิ้วมือเกือบขาดออกจากกัน พยาบาลบอกหมอว่า ผู้ป่วยใช้สิทธิประกันสังคม
หมอบอกพยาบาลว่า เตรียมเครื่องมือตัดนิ้ว(นี่คือมาตรฐานถ้าไม่เชื่อต้องถามหมอดู)
แต่พอพยาบาลร้องบอกหมออีกทีว่า หมอคะผู้ป่วยขอใช้สิทธิประกันชีวิต หมอก็บอกพยาบาลว่า งั้นเตรียมเครื่องมือเพื่อต่อนิ้ว(นี่ก็มาตรฐานเหมือนกันไม่เชื่อก็ถามหมอดู)
 อีกตัวอย่าง แพ้ผื่นคันเต็มตัว ใช้สิทธิประกันสังคม จ่ายยา cpm แท้ขององค์การมาตรฐาน Gmp  10 เม็ด 5บาท หายแบบมาตรฐาน แต่พอบอกว่าขอจ่ายเงินสด เขาก็เอา pireton ซึ่งเป็นยา original  10 เม็ด 100 บาท
ให้ไปแทน แต่ก็หายเหมือนกัน เห็นไหมครับ มาตรฐานไม่ได้อยู่ที่ 5 บาทกับ 100 บาท แต่อยู่ที่ต้องให้ยาแก้แพ้
เหมือนกันครับ
พอหอมปากหอมคอ
สรุป มาตรฐานเรื่องไหนก็เป็นมาตรฐานเรื่องนั้น ไม่คิดรวมกัน เหตุการณ์เดียวสามารถแก้ปัญหาที่เป็นมาตรฐานได้หลายแบบแต่ละแบบย่อมใช้มาตรฐานอันเดียวกัน
งงครับ ขอบคุณครับ
รัชพล////
www.ULclick.com


ดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้าน หักค่าลดหย่อนได้กี่หลัง
ได้ทุกหลังที่อยู่จริงในปีภาษี  ต้องเป็นการเช่าซื้อที่ได้จดจำนองมีระยะเวลาแน่นอน
รวมกันแล้วไม่เกิน 100,000 บาท ในปีภาษี ประกาศ 167 ปี 51

ดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับผ่อนบ้านถ้ากู้ร่วม 4คน แต่อีก 3 คนไม่นำไปลดหย่อน ภ.ง.ด.91 จะให้คนหักลดหย่อนทั้งหมดเลยได้หรือไม่
A B C D  เป็นพี่น้องกันกู้ร่วมเพื่อปลูกบ้าน ตอนสิ้นปี B C D ไม่ต้องการนำดอกเบี้ยเงินกู้มาลดหย่อน เนื่องจากรายได้ไม่ถึง จะนำดอกเบี้ยทั้งหมดให้กับ A ลดหย่อนทั้งหมดได้หรือไม่ โดยไม่ต้องหาร
ไม่ได้ครับ ได้เฉพาะตามส่วนของตนครับ ตามประกาศกรมสรรพากร ฉบับที่ 167 ปี 51 ครับ

ไม่ได้ครับ ได้เฉพาะตามส่วนของตนครับ ตามประกาศกรมสรรพากร ฉบับที่ 167 ปี 51 ครับ
อาจไม่เป็นที่ถูกใจนะครับ เป็นเรื่องธรรมดาของการก่อร่างสร้างตัว
ขอตอบแบบการบริหารเงินงานและชีวิต
      ซื้อบ้าน ซื้อมาแล้วเป็นทรัพย์สินหรือหนี้สิน ถ้ามีความจำเป็นมากซื้อ
มาแล้วคุ้มค่า อยู่ระยะยาว เป็นทรัพย์สิน ถ้าซื้อมาแล้วไม่ก่อประโยชน์
หรือให้ประโยชน์น้อย เป็นหนี้สิน
       ซื้อรถ ใช้ในการเดินทางไกล สะดวก ไปทำงาน ประโยชน์คุ้มค่า
เป็นทรัพย์สิน ซื้อมาแล้วจอดแช่ หรือใช้ระยะสั้นๆ หรือโก้ เป็นหนี้สิน
วิ่งน้อยนำไปติดแกส เครื่องก็พังเร็วขายต่อก็ไม่ได้ราคา เป็นการซ้ำเติมหนี้สิน
      เราก็มาเปรียบเทียบ ถ้าใช้หลักการนี้ไตร่ตรองระยะยาวไม่เสียใจ
แต่ถ้าใช้อารมณ์ตัดสินมันก็แพ้กับความรู้สึกทั้งนั้น หละครับ
ขอบคุณครับ
www.ULclick.com


ถ้าเราจ่ายค่าประกันชีวิตต่อปีเป็นงวด สิ้นปีเราจะเอามาหักภาษีได้ยังไง
คือ ตอนนี้ทำประกันชีวิตแบบ 10 ปีขึ้นไป แล้วชำระเบี้ยประกันเป็น 3 งวดต่อปี งวดละประมาณ 8,000 กว่าบาท
อยากรู้ว่าตอนสิ้นปี เราจะยอดชำระเบี้ยประกันไปหักลดหย่อนโดย เอาแต่ละงวดมาบวกกันแล้วเอาไปหักลดหย่อน
หรือว่าหักได้แค่ 8,000 บาท
มีรายได้ ยื่นแบบคือหน้าที่เป็นคนดีของสังคม 
 เบี้ยประกันชีวิต ลดได้เต็มที่ 100,000 บาท แบบบำนาญได้อีก 200,000 (ไม่เกิน 15%ของเงินได้พึงประเมิน เริ่ม กย53 มีบ.aia กับ เมืองไทยเปิดขาย)    รวม 300,000 
 ต้องเป็นแบบคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป ทำก่อนปี52 เบี้ยรวมสัญญาเพิ่มเติมลดได้ด้วย
ทำปี 52 เป็นต้นมาลดได้เฉพาะเบี้ยทุนหลัก
 ทุกแบบที่มีเงื่อนไขเงินคืน 20%ของทุนประกัน ใช้ลดไม่ได้
เบี้ยที่ใชลดภาษี เป็นเบี้ยที่จ่ายในปีภาษีนั้นๆ(1มค-31ธค)รวมทุกงวด ทุกเล่ม ทุกบริษัท
 ปัจจุบันต้องแนบหนังสือรับรองการชำระเบี้ยที่บริษัทส่งมาให้ สรรพากรไม่ค่อยอยากรับใบเสร็จ
ปรึกษาฟรีครับ 

 
www.ULclick.com


มาตรการภาษีที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัย
เบี้ยประกันชีวิตเป็นเงินออมระยะยาว เป็นสิ่งที่รัฐบาลเน้นให้มีการออมเป็นระบบมั่นคงหนึ่งละ
สองคือเงินในระบบเป็นเงินก้อนใหญ่สามารถนำไปพัฒนาประเทศได้ดีกว่าเงินระบบอื่น
รัฐบาลจึงออกนโยบายทุกยุคสมัย ใครก็ตามที่ออมกับประกันชีวิตสามารถนำเบี้ยที่จ่ายไปเป็นส่วนลด
พิเศษจากรัฐบาลในรูปค่าลดหย่อนภาษีปะจำปี 
 จากเดิมที่ลดหย่อนได้ปีละไม่เกิน 50000 เป็น 100,000 ต่อปี และปัจจุบันรัฐบาลคาดว่า อีก 20 ปีข้างหน้า
ประเทศไทยจะเข้าสู่ยุคคนแก่สมบูรณ์แบบ ในปี 2573 แค่ปัจจุบันยังรับภาระไม่ไหว อีก 20 ปีข้างหน้า
สวัสดิการไม่ต้องพูดถึง ใครเตรียมตัวก่อนถือเป็นผู้ไม่ประมาท แม้ว่าก๋วยเตี๋ยวรวมอัตราเงินเฟ้อ 35x3 เท่า=105บาท ก็ตาม ดังนั้นจึงออกมาตรการให้มีการออมระบบประกันชีวิตแบบบำนาญ เมื่อวันที่ 19/9/53 ที่ผ่านมา โดยใครก็ตามที่ซื้อประกันแบบบำนาญ ให้มีสิทธินำเบี้ยประกันไปลดหย่อนภาษีได้อีก 200,000บาท
รวมของเดิมกลายเป็น 300,000ต่อปี แต่ของใหม่นี้เบี้ยที่ลดได้ต้องไม่เกิน 15%ของเงินได้พึงประเมิน
อยู่ในขอบข่ายรวมกับ RMF/LTF/กบข/กสช ซึ่งไม่เกิน 500,000บาท และให้ใช้ทันปีภาษี 2553ที่จะสิ้นสุด
ในวันที่ 31/12/2553 และเริ่มชำระภาษี 1/1/54 มีสองบริษัทเปิดขาย AIA กับ เมืองไทยประกันชีวิต
ปรึกษาได้นะครับ
รัชพล อยู่เย็น
081-9549249
www.ULclick.com


รู้สึกยังไง เวลามีเพื่อนมาขายประกันชีวิต
ดีสุด
เพื่อนก็คือเพื่อน ผมไปงานศิษย์เก่าที่ จ.เลย เพื่อนมาจากหลายจังหวัด
เจอเพื่อนเก่า เล่าเรื่องในอดีต มีความสุข บางคนเป็นอัยการ เป็นผู้กำกับ เป็นครู
เป็นผู้รับเหมา เป็นแม่ค้า เป็นเจ้าของนา เป็นแม่บ้าน หลายคนทำธุรกิจ ขายสินค้าตรง
ขายเสื้อผ้า ขายคอม ขายโทรศัพท์ นั่นเพื่อนทั้งนั้น
     ผมขายประกันครับ ขายมา 15 ปี ตอนนี้ตำแหน่งผู้จัดการภาค ในจำนวนเพื่อนเป็นลูกค้า
ประมาณ 30% แต่ละอาชีพเราเกื้อหนุนกัน เขาเรียกว่าเพื่อน ในการไปพบกันผมจะบอกเพื่อนๆว่า
นี่เพื่อนเราขายประกันอยู่ เรามีรายได้จากลูกค้า นั่นมันเป็นอาชีพมันเป็นธุรกิจ แต่มิตรภาพสำคัญอันดับหนึ่ง
เพื่อนมีประกันหรือยัง น่าจะซื้อไว้ วันหน้าขอเอาเอกสารไปฝากไว้พิจารณาได้ไหม ของซื้อของขายไม่ซื้อไม่ว่ากัน ส่วนใหญ่เพื่อนเราก็ทำ ถ้าเพื่อนตายเพื่อนคนอื่นจะถามทันทีว่าซื้อกับนายเท่าไร แต่ผมก็บอกว่า มันไม่ได้ซื้อ เพราะเราไม่ได้ไปขายให้เพราะเราเกรงใจ เคยส่งเอกสารไปให้ดูแต่ไม่ได้ทำ ขอโทษด้วย
     เหมือนกับเพื่อนขายโทรศัพท์ ขายโนตบุ๊ค ขายรถยนต์ สร้างบ้าน ขายอาหารเสริม แต่เพื่อนกันพอคิดจะซื้อกลับไปซื้อที่อื่น หรือจ้างคนอื่น

     ถ้ากลัวว่าเพื่อนจะมาเอาประโยชน์ อย่ามีเลยครับคำว่าเพื่อน แต่ถ้ายังมีอยู่บ้าง คงต้องถามว่า
ธุรกิจเป็นไง ไปได้ดีไหม แบบไหนที่เหมาะกับเราก็นำเสนอมาได้เลย เอาแบบถูกที่สุด เดือนละ100 ได้เป็นดี
เอาคุ้มครอง 1,000,000  แต่ตอนนี้ลูกเปิดเทอม รอเงินโบนัสออกปีหน้า ค่อยว่ากันอีกทีดีไหมเพื่อน

ดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้าน (หลังที่ 2) สามารถนำมาหักลดหย่อยภาษีได้ไหม
คือเคยหักลดหย่อนมาแล้ว 1 หลัง ผ่อนหมดแล้ว
ต่อมา ซื้อผ่อนหลังใหม่
จะนำดอกเบี้ยมาหักลดหย่อนได้อีกไหม
ได้ทุกหลังที่อยู่จริงในปีภาษี  ต้องเป็นการเช่าซื้อที่ได้จดจำนองมีระยะเวลาแน่นอน
ดอกเบี้ยรวมกันทุกหลังแล้วไม่เกิน 100,000 บาท ในปีภาษี ตามประกาศกรมสรรพากร ฉบับ 167 ปี 51
ช่วยทำการบ้านวิชา ภาษีอากร หน่อยค่ะ
โจทย์ตามนี้นะคะ นายชำนาญมีภริยาและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะตามกฏหมายและกำลังศึกษาอยู่ในโรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งจำนวน 2 คน นายชำนาญทำงานกับบริษัทแห่งหนึ่งได้เงินเดือน ๆ ละ 20,000 บาท ซึ่งถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้เดือนละ 358 บาท นางพจนีภรยาของนายชำนาญได้รับเงินปันผลในปีภาษีนั้นจากบริษัทไทยแห่งไทยแห่งหนึ่งจำนวน 70,000 บาทซึ่งถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายแล้ว 7,000 บาท นายชำนาญและภริยาไม่มีเงินเดือนอื่นใดอีกในปีภาษีนั้น นายชำนาญและภริยาจะต้องชำระภาษีเพิ่มเติมหรือได้รับคืนเงนภาษีเท่าใด
ลองใช้ดูนะครับถูกไม่ถูกไม่รับรอง
1. รายได้ทั้งหมดเรียกเงินได้พึงประเมิน(เงินเดือน ม.40(1) 20000x12=240,000+ปันผล(ม.40(4)70000 รวม  310,000 
2. หักด้วยค่าใช้จ่าย 40%ไม่เกิน 60000  เหลือ 250,000
3. หักด้วยค่าลดหย่อน ส่วนตัว30000เมีย30000 บุตรเรียนคนละ 17000x2=34,000+60000 =94,000
4. เป็นเงินได้สุทธิ 250,000-94000=156,000
5. เข้าสูตรอัตราภาษีหักด้วยค่ายกเว้น 0-150,000 ยกเว้น 150,001ถึง500,000 เสียภาษี 10% 156000-150,000 =6000x10%=600
6.เป็นภาษี จ่ายไว้เท่าไรก็เอามาหักออก จ่ายไว้เกินก็ขอคืน มีแค่นี้ครับ 
  ต้องเสียภาษีทั้งหมด 600 บาท ที่เหลือคิดเอง OKมั๊ย

หากคุณได้รับเงินเดือน 60000 บาท คุณจ่ายเงินสมทบเท่าไหร่ครับ 
หักสมทบ 5% ไว้ดูแลตนเองตอนป่วย ตอนคลอด ตอนแก่ ตอนตกงาน และไม่เกิน 750/เดือน 
คิดฐานเงินเดือน 15000 และสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ ปีละไม่เกิน 9000 บาท

ขึ้นเงินเดือน สส,สว , ขึ้นเงินเดือน อบต. , ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ , ขึ้นเงินเดือนพนักงานรัฐวิสาหกิจ , 99
ก่อนอื่นก็ต้องขอแสดงความยินดีกับ ท่านสส ท่านสว ท่านอบต ท่านข้าราชการ ท่านพนักงานรัฐวิสาหกิจ ทั้งหลายทั้งแหล่ ด้วยนะครับ พวกท่านได้ขึ้นเงินเดือนแล้วนะคร๊าบบบบบ ดีใจจริงๆๆ เย้

ต่อไปท่านจะได้เอาเงินเดือน อันแสนแพง อันแสนล้ำค่า ไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือยตามอัธยาศัย ท่านนะครับ แต่ก่อนที่ท่านจะใช้ตังค์เนี่ย ขอให้ท่านคิดซะบ้างว่าตังค์ที่ท่านใช้มาจากภาษีพวกผมนะครับ

และเมื่อพวกท่านคิดได้แล้วก็ขอให้ตั้งใจทำงานกันให้ดีๆนะครับ เพราะพวกท่านได้เงินเดือนเพิ่มขึ้นแต่พวกผมจ่ายภาษีเท่าเดิม(แพงขึ้นด้วยมั้ง)นะครับ

สุดท้ายนี้ก็ขอให้พวกท่านรักษาสุขภาพและตั้งใจทำงานกันดีๆ นะครับ

ปล.ยินข่าวมาว่านอกจากพวกท่านจะขึ้นเงินเดือนกันเองแล้วพวกท่านยังเบิกจ่าย โบนัส+แต๊ะเอีย กันเองด้วย ไม่รู้เอาเงินมาจากภาษีใคร
อย่าว่าเขาเลย เป็นท่านก็ต้องทำอย่างนี้ ไม่ทำไม่ได้มันเป็นมาตรการ กระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นมาตรการกระจายเงินให้เข้าสู่ระบบใช้จ่ายอย่างรวดเร็ว
เพราะพวกนี้รับไปแล้วจ่ายออกทันที เป็นมาตรการสร้างฐานความนิยม อย่างน้อยก็ได้ขึ้นชื่อว่า
สมัยที่เป็นรัฐบาลครั้งหนึ่งยังได้ช่วยพวกคุณที่เป็นราชการและกึ่งราชการดังนั้นสมัยหน้าอย่าลืม.. เป็นมาตรการ
ที่ดีกว่าจ่ายเป็นโครงการเพราะการจ่ายเป็นโครงการทำให้เม็ดเงินกระจุก เป็นเรื่องดีๆทั้งนั้น และธรรมดามากๆ
เสียอย่างเดียว ." หาเงินไม่เก่ง " .ใช่มั๊ยครับ



เงินเดือน ควรขึ้น ปีละ เท่าไหร่
ขอรายได้ต่อวันเพิ่มขึ้นวันละบาทพอครับ ไม่หวังมาก อิอิ
ผมอยูภาคธุรกิจ ตลอด สิบกว่าปีที่ผ่านมา เงินเดือนผมเพิ่มทุกเดือน 
สโลแกนของผม เงินเดือนไม่ใช่เงินปี ดังนั้น เงินเดือนต้องขึ้นทุกเดือน
www.ulclick.com


สามีและภรรยามีรายได้ ต้องแยกยื่นภาษีรายได้ประจำปีหรือเปล่า
ยื่นแบบคือหน้าที่ เป็นคนดีของสังคม
ประเด็นพิจารณาได้เพียงว่า
สามีมีรายได้เป็นเงินเดือนค่าจ้าง ม.40(1)
ถ้าภรรยาทำงานที่เป็นประเภท มีเงินเดือน ค่าจ้าง ม.40(1) แยกยื่นได้เลย
แต่ถ้าภรรยามีรายได้ประเภทอื่น ต้องรวมยื่นกับสามีครับ
รัชพล อยู่เย็น
www.ulclick.com


สามีโดนฟ้องเรื่องค่ำประกันรถยนตื ให้ภรรยาเก่าเป็นคดีความแพ่ง โทษที่สุดแล้วคืออะไรค่ะ
เราพึ่งจดทะเบียนกันได้1ปีหลังจากเขาหย่าร้างกับภรรยาเก่าแล้ว1ปี
เรื่องเกิดขึ้นตั้งแต่สามีอยู่กับภรรยาเก่า ภรรยาเขาได้ขายดาวน์รถยนต์ให้กับเต็นรับซื้อรถ เพื่อจะไปเที่ยวเมืองนอก
โดนที่สามีเป็นคนค้ำ แต่แล้วเจ้าของเต็นไม่ส่งค่างวด ทางไฟแนนซ์ได้ฟ้องสามีกับภรรยาเก่า
ศาลตัดสินให้นำรถมาคืนหรือชดใช้ เป็นเงินเป็นงวดๆ
สามีไม่ได้ส่งเงินให้เขาค่ะ เพราะทุกวันนี้เอาตัวเองยังไม่รอด เพราะเลิกกับภรรยาเก่า ไม่ได้อะไรติดตัวเลย มีแต่หนี้สิน
ที่เขาตกลงตอนหย่าว่า ให้สามีเป็นผู้รับใชหนี้แต่เพียงผู้เดียว
ศาลได้ส่งเอกสารแจ้งมาที่บ้านดิฉัน และได้อ่าน มีความว่า ให้สามีดำเนินการภายใน30วัน
มิฉนั้น จะโดนยึดทรัพย์ หรือจำคุก
ทางสามีบอกว่า จะดำเนินการยังไงได้ ในเมื่อรถก็หาไม่เจอ เต็นก็ย้ายหาย เงินก็ไม่มีจะชดใช้ จะทำยังไงดีค่ะ
ทุกวันนี้เขาใช้รถของดิฉันค่ะ ซึ่งมีมาก่อน และดิฉันได้ซื้อรถอีกคันไว้ทำงานเองเป็นชื่อของดิฉัน รวมทั้งบ้านที่อยู่ ก็เป็นของดิฉันค่ะ
ช่วยแก้ปัญหา ให้แก่ดิฉันด้วยค่ะ
ขอบคุณ สำหรับผู้รู้ล่วงหน้าค่ะ คนไทยไม่แล้งน้ำใจ ใช่ไหมค่ะ
บันทึก #1 8 ม.ค. 2554, 14:59:37
สามีบอกว่า เราจะได้หย่ากันไว้ก่อนเพื่อกันไว้
คุณว่าจะดีไหมค่ะ มันเกี่ยวกันด้วยหรือ
บันทึก #2 8 ม.ค. 2554, 15:06:43
ศาลตัดสินคดี ถึงที่สุดแล้ว เราจะไปขอออมชอมได้หรือค่ะ
ถ้าจะให้ชดใช้เป็นเงิน สามีไม่มีให้หรอกค่ะ เคยปรึกษาทะนายมาก่อน
ท่านบอกว่า ก็นอนกอดคดี ไปก็แล้วกัน ทั้งทนายฝ่ายทางไฟแนนซ์และทะนายฝ่ายเรา
แต่พอดิฉันอ่านเอกสารแล้ว มีโทษยึดทรัพย์และจำคุกด้วย ใจเสียเลยค่ะ
บันทึก #3 8 ม.ค. 2554, 15:09:08
ส่วนภรรยาเก่า แต่งงานกับฝรั่งอยู่เมืองนอกตั้งแต่เลิกกับสามีแล้วค่ะ
อย่างนี้เขาจะได้รับโทษด้วยหรือปล่าวค่ะ
บันทึก #4 10 ม.ค. 2554, 15:27:04
ตอนขาย สามีรู้ค่ะ ภรรยาเก่าเป็นคนจัดการทั้งหมด
บันทึก #5 10 ม.ค. 2554, 15:31:42
ตอนพิจราณาคดี สามีก็รับรู้ค่ะ แต่ภรรยาเก่าจะให้สามี รับผิดชอบทั้งหมด
เพื่อแลก กับการหย่าขาด
เพราะตอนหย่า ทางภรรยาเก่าเรียกเงิน 100000บาท
แต่สามีไม่มีให้ เลยต้องเป็นคนรับหนี้สินทั้งหมด
บันทึก #6 14 ม.ค. 2554, 11:53:37
ถ้าเขาล้มละลาย จะเกี่ยวอะไรกับดิฉันไมค่ะ เพราะจดทะเบียนกันค่ะ
ยังไง เขาก็ไม่มีจ่ายแน่นอน
บันทึก #7 14 ม.ค. 2554, 11:54:24
ถ้าเขาล้มละลาย จะเกี่ยวอะไรกับดิฉันไมค่ะ เพราะจดทะเบียนกันค่ะ
ยังไง เขาก็ไม่มีจ่ายแน่นอน
บันทึก #8 14 ม.ค. 2554, 11:55:35
ถ้าเขาล้มละลาย จะเกี่ยวอะไรกับดิฉันไมค่ะ เพราะจดทะเบียนกันค่ะ
ยังไง เขาก็ไม่มีจ่ายแน่นอน
บันทึก #9 14 ม.ค. 2554, 11:56:02
ถ้าเขาล้มละลาย จะเกี่ยวอะไรกับดิฉันไมค่ะ เพราะจดทะเบียนกันค่ะ
ยังไง เขาก็ไม่มีจ่ายแน่นอน
บันทึก #10 18 ม.ค. 2554, 09:15:28
ตอนเริ่มอยู่กันใหม่ๆ มันเป็นช่วงคาราคาซังค่ะ สัก5-6เดือนก็มีคนแนะนำให้ไปจดทะเบียนสมรส ดิฉันเลยไปจด
แล้วตอนนั่น ดิฉันมีรถอยู่คันเดียวต้องใช้ค้าขาย แต่สามีไม่มีรถใช้ทำงานค่ะ ก็เลยให้เขาใช้ มาซื้อรถอีกคัน ก็ตอนจดทะเบียนสมรสแล้ว
แต่เป็นชื่อดิฉันค่ะ อย่างนี้จะเป็นอะไรไมค่ะ เข้าข่ายมีทรัพย์ให้ยึดหรือเปล่าค่ะ
ขอบคุณ มากค่ะ สำหรับคำตอบทุกคำตอบ ที่ช่วยให้ความรู้ แก่ดิฉันค่ะ
คนไม่รู้ ก็ไม่รู้น่ะค่ะ การสึกษาน้อยค่ะ ชีวิตเริ่มด้วยความลำบากเหมือนกันค่ะ ไม่ได้มีวุฒการศึกษา จบแค่ ม.ต้นค่ะ
กว่าจะสร้างชีวิตถึงวันนี้ หยาดเงื่อแรงงานและมันสมอง ล้วนๆค่ะ

คำตอบดีสุด             
เรื่องค้ำประกันรถเป็นเรื่องคดีแพ่งเพราะไฟแนนซ์เขาต้องทำสัญญาเป็นลูกหนี้ร่วม
(บังคับใครก็ได้คนใดคนหนึ่งที่อยู่เมืองไทย) กี่ปีก็ต้องใช้คืน มีทรัพย์สินขึ้นมาเมื่อไหร่ จะถูกบังคับคดีมายึดไป
          เรื่อง จำคุกเป็นความผิดอาญาฐานโกงเจ้าหนี้ ที่ร่วมกันเอารถไปขายเต้นท์
โดยที่เจ้าหนี้(ไฟแนนซ์ไม่รับรู้)
          ทั้งสองเรื่องเป็นความทุกข์ระทม แต่การเอาลูกหนี้ไปเข้าคุกไฟแนนซ์ไม่นิยม เพราะต้องการเงินมากกว่า
เมื่อมาแต่งงานกับคุณ ทรัพย์สินของคุณที่มีอยู่ก่อนสมรสเป็นทรัพย์สินส่วนตัว ไม่อยู่ภายใต้การบังคับคดี
แต่ทรัพย์สินที่เกิดมีขึ้นใหม่ระหว่างแต่งงานเป็นสินสมรส อยู่ในข่ายบังคับคดี
คุณต้องให้ทนายจัดทำบัญชีทรัพย์สินของคุณไว้เป็นหลักฐาน เผื่อนะครับบางทีสามีคุณขับรถอยู่ดีๆอาจโดนยึดรถ
คุณจะได้นำหลักฐานไปร้องสอดที่บังคับคดีขอรถคืน
       ทรัพย์สินของคุณ เป็นของคุณไม่มีปัญหา กฎหมายมีไว้คุ้มครองสวัสดิภาพประชาชน
การที่สามีจะถูกฟ้องให้ล้มละลายได้นั้น มูลหหนี้ต้องเยอะมากๆ
คุณก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขได้ แต่มันก็ทุกข์ด้วย พระพุทธเจ้าท่านยังว่า อินาทานัง ทุกขังโลเก
แปลว่าการมีหนี้เป็นทุกข์ในโลก แม้กระนั้นคนยังชอบมัน เป็นสุขขังโลเก  คนเรามีขึ้นมีลง 
ผมคิดว่าคุณและสามีต้องผ่านปัญหานี้ไปได้ เพราะมันคือปัญหาธรรมดาพื้นฐาน
คือ ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย แต่ถ้ามีเมื่อไหร่ต้องใช้คืนเขาบ้างนะครับใจเขาใจเรา ในทางคดีคุณไม่เกี่ยวหรอกครับ
และไม่ต้องหย่าด้วย ถ้าจะหย่าก็เลิกเลยดีกว่า แต่ที่คุณต้องเกี่ยวคือคุณต้องอยู่เคียงข้างช่วยให้เขาลุกขึ้นสู้ได้ หนี้แค่นี้เองหมูๆ
นี่แหละรสชาติของชีวิต คำตอบคงพอใช้ได้นะครับ 
รัชพล อยู่เย็น
081-9549249
www.Ulclick.com

อยากทราบอัตราการจ่ายภาษีของแต่ละช่วงของรายได้
1-500000     10% (150000แรกยกเว้น)เหลือ 350,000=35,000 บาท
500,001-1,000,000   20%=100,000 บาท
1,000,001-3,000,000 30%=900,000 บาท
3,000,001+                 37%
เป็นต้น

การคํานวณเงินเดือน ๆละ25000 บาทถูกหักภ่ษี ณ ที่จ่าย เดือนละ750 บาท
รายได้แบบเงินเดือน ค่าจ้าง มันเป็นอัตราที่ค่อนข้างคงที่ ตาม ม.40(1)
ภาษี ณ ที่จ่ายจะหักก็ได้ ไม่หักก็ได้
เงินเดือน 25000 x12=300,000 หักค่าใช้จ่าย 60000 หักลดหย่อนส่วนตัว คู่สมรส บุตร ประกันชีวิต ประกันสังคม หักค่ายกเว้น
150,000 แรก แล้วเหลือเงินได้ที่ต้องเสียภาษีอยู่ประมาณ 30000 บาท อยู่ในฐานภาษี 10% ก็จ่ายภาษีแค่ 3000 บาท
ใยต้องหัก เดือนละ 3% เป็นเงิน 9000 บาท
     น่าจะเข้าใจผิด
          1. ภาษี ณ ที่จ่าย 3% เป็นภาษีหักจากรายได้ที่เป็นงานบริการเป็นครั้งคราวมากกว่า ไม่ใช่เงินเดือน
          2. หักเดือนละ 750 บาท เป็นการหักขั้นสูงของประกันสังคม 
ลองตรวจสอบและถามฝ่ายบัญชีอีกทีนะครับ แต่ถ้าหักไว้จริง สิ้นปีก็ขอคืนครับ ง่ายนิดเดียว
รัชพล อยู่เย็น
www.ULclick.com


วิธีคํานวณภาษีด้วยตัวเอง
เอารายได้ทั้งหมด(เงินได้พึงประเมิน)ตั้ง
หักค่าใช้จ่ายส่วนตัว 40%ไม่เกิน 60000
เหลือเท่าไหร่ หักด้วยค่าลดหย่อน ได้แก่เช่น
     ลดหย่อนตัวเอง 30000 คู่สมรส 30000 ลูกเรียนคนละ 17000 เบี้ยประกัน 100000 ประกันบำนาญ 200000 ประกัสังคม 9000 ดอกเบี้ยซื้อบ้าน 100000 LTF/RMF ไม่เกิน 500000 ฯลฯ  แต่........RMF/LTF ที่นำไปลดภาษีได้ต้องไม่เกิน 15%ของเงินได้พึงประเมิน อย่า...ชะล่าใจ ลดได้ไม่เต็ม ยิ่งต้องส่งติดต่อกันไปอย่างน้อย 5 ปี หรืออายุต้องไม่น้อยกว่า 55 มิฉะนั้นโดนเรียกภาษีย้อนหลัง ข่าวไม่ดี ปี 57 LTF อาจลดภาษีไม่ได้แล้ว
     เหลือเท่าไหร่ ถือเป็นเงินได้สุดท้าย เทียบอัตราภาษีได้เลย
  500000แรก เสีย 35000
500000ที่สอง เสีย 20%100000
500000ที่สามสี่ห้าหก เสียอันละ30%
500000ที่เจ็ด+เสียอันละ37%บาน 
รัชพล อยู่เย็น
www.ULclick.com


ภาษีเงินได้ส่วนบุคคล ร้านเน็ต ใช้ประกันชีวิตลดหย่อนได้ไหม
ร้านเน็ทเป็นกิจการรายได้ของบุคคลของคุณjigko ตามมาตรา 40(8)
ใช้เบี้ยประกันชีวิตที่มีระยะเวลาคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไปและเฉพาะทุนประกันหลัก ลดหย่อนได้ไม่เกิน 100,000 บาท
แบบบำนาญได้อีกไม่เกิน 200,000 บาท
www.ULclick.com



*************รำคาญพนักงานไทยประกันมาก*******
ผมโดนพนักงานไทยประกันชีวิตโทรมานัดให้ไปสัมภาษณ์งานในตำแหน่งฟังดูแล้วโคตะระใหญ่โตมาก โดยที่ผมไม่ได้สมัครไป วันนึงผมรับเกือบ 10 สาย บางวันผมต้องโทรกลับไปทุกสาย ที่ไม่ได้รับ เกิดความรำคาญ และทำให้ผมเสียเงินค่าโทรศัพท์  ผมติดต่อกลับยังบริษัทไทยประกันชีวิตแล้วแต่กลับบอกว่าควบคุมไม่ได้ ต้องให้ผมเก็บข้อมูลของคนที่โทรมาแล้วแจ้งกลับไปยังบริษัท ........จะมีวิธีแก้ยังไงบ้างครับ
บันทึก #1 14 ม.ค. 2554, 15:09:08
เบอร์ที่โทรมาจะเป็นมือถือครับ ไม่ใช่เบอร์โทรศัพท์พื้นฐาน
บันทึก #2 16 ม.ค. 2554, 01:49:47
ขอบคุณครับ
บันทึก #3 21 ม.ค. 2554, 01:03:06
จาก คุณรัชพล ก็ขอบคุณมากครับ ที่ออกมาให้ความเห็น ยินดีรับฟังเสมอครับ ถือว่าแบ่งปันกันครับ   ...ผมเคยทิ้งใบสมัครงานไว้นานแล้วครับ แต่ไม่เคยเข้าไป update ประมาณ 1 ปีแล้ว ครับ แล้วเวลาผมรับสายผมจะถามก่อนว่าไม่ทราบว่าติดต่อเรื่องอะไรจากบริษัทอะไร ผมก็ได้รับคำตอบเดิมๆ คือ ไทยประกัน ครับ ปัจจุบันผมเปิดบริษัท ส่วนตัว คือ ซื้อขายรถยนต์มือ 2 และบริษัททัวร์ ครับ  และ บริษัทรับวางระบบ network เมื่ออาทิตย์ที่แล้วร้องเรียนไปทางบริษัทไทยประกัน พนักงานฝ่ายระเบียบวินัย ก็ รับเรื่องพูดจาดีครับคอยโทรมาตามเรื่องทุก 7 วัน ก็ทำให้รู้สึกว่าบางสิ่งที่อาจเป็นการล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคลเกินไปเราควรจะร้องเรียน แต่ AIA ผมไม่เคยเจอนะครับ ก็ ขอชมเชยในการบริหารของที่มงานผู้บริหารของ AIA ครับ
....
บันทึก #4 29 ม.ค. 2554, 11:52:43
ให้คุณ BB โทรไปแจ้งที่ ไทยประกัน ฝ่ายวินัย เหมือนผมสิครับ แล้วบอกเบอร์ที่โทรมาครับ ผมไม่ได้รับสายมา เกือบ 1 เดือนแล้วครับ หลังจากโทรไปแจ้งครับ

แปลกนะครับ ที่มีเฉพาะพนักงานไทยประกัน น่าจะมีบริษัทอื่น และเบอร์โทรก็เป็นส่วนตัว ทำไมเฉพาะตัวแทนไทยประกันที่รู้
สงสัยว่าคุณอาจสมัครงานไว้ในเวป หรือฝากเบอร์ไว้ หรือมิฉะนั้นคุณก็โดนเพื่อนแกล้งให้เบอร์คนอื่นไปว่าสนใจเป็นตัวแทน
เลยโดนรุม ไม่เป็นไรหรอกครับแค่ชั่วครั้งชั่วคราว ถือเสียว่าเนื้อหอมละกัน ไม่ต้องไปโกรธเขานะครับ บอกเขาว่าขอพิจารณา 3ปีก็แล้วกัน
    ผมอยู่ aia วิธีการชวนของผม จะต้องสนใจเอง และรับ e-mail หลายๆครั้งดูจนเป็นที่พอใจ แล้วค่อยตัดสินใจสมัครเป็นขั้นเป็นตอน ขณะนี้ผมมีทีมงานอยู่ 31 คน แต่ละคนล้วนมาขอสมัครเองทั้งนั้น ลองเข้าไปดูที่เวปนะครับ
ขอโทษหากคำตอบรบกวนนะครับ
รัชพล อยู่เย็น
www.ULclick.com
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Popular Posts

728 X 90 Ad slot